เทคนิคการจัดการเรียนการสอน
เทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบ e-learning
รองศาสตราจารย์สุดาว เลิศวิสุทธิไพบูลย์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
เมื่อได้ยินคำาว่า “การเรียนอิเล็กทรอนิกส์” หลายท่านอาจนึกฉงนใจ ทั้งที่จริงแล้วการเรียนการสอนรูปแบบนี้เป็นที่ รู้จักกันดีโดยนิยมเรียกทับศัพท์สั้น ๆ ว่า “อีเลิร์นนิง” (e-learning) ซึ่งมาจากคำาภาษาอังกฤษคือ electronic learning และ พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถานได้บัญญัติศัพท์ภาษาไทยว่า การเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันการจัดการ เรียนการสอนรูปแบบนี้ได้เข้ามามีบทบาทสำาคัญและใช้กันอย่างแพร่หลายในสถาบันอุดมศึกษาจำานวนมากทั้งในประเทศไทยและ ต่างประเทศ สำาหรับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) นั้นได้เริ่มพัฒนาการเรียนการสอนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่าย คอมพิวเตอร์อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2540 โดยมีการแต่งตั้งคณะทำางานศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบ และมีการส่งเสริม และพัฒนาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน (ภาพที่ 1) ซึ่งสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพเป็นสาขาวิชาหนึ่งที่ได้ ใช้ระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์หลายชุดวิชาในระดับบัณฑิตศึกษา
ภาพที่ 1 หน้าเว็บการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ของมสธ.
1. ความหมายและองค์ประกอบของการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการจัดการการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ผ่านเครือข่ายเป็นหลัก มีการจัดสภาพการ เรียนการสอนอย่างเป็นระบบด้วยการใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะและทรัพยากรของอินเทอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บในการสื่อสาร และถ่ายทอดความรู้โดยไม่จำากัดเวลาและสถานที่ อาจารย์มีบทบาทเป็นผู้สอนออนไลน์ในการสร้างเนื้อหาและออกแบบกิจกรรม การเรียนการสอน เป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ โดยการให้คำาปรึกษา ช่วยตรวจสอบความก้าวหน้า และช่วยเหลือผู้เรียนให้ผู้เรียน
สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองในระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ องค์ประกอบของการจัดการเรียนการสอนในระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนบทเรียน และ ส่วนเทคโนโลยี รายละเอียดแสดงในภาพที่ 2 การเรียน อเล็กทรอนิกส์
บทเรียน
- เนือหา
- สือและการช่วยเหลือ
- กิจกรรม เทคโนโลยี
- คอมพวิเตอร์
- เครือข่าย
- การสือสาร
2. รูปแบบการจัดกิจกรรมในระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาอย่างมาก การเรียนอิเล็กทรอนิกส์จึงสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้หลาย รูปแบบ ที่สำาคัญได้แก่
2.1 กิจกรรมสัมมนาปฏิสัมพันธ์บนเว็บในรูปแบบ Interactive Webinar หมายถึง สื่อเสริมสำาหรับนักศึกษาในรูปแบบ ปฏิสัมพันธ์ผ่านสื่อ โดยจัดอยู่ในรูปกิจกรรมการสัมมนาเสริม โดยเป็นกิจกรรมที่นักศึกษาจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อส่งงาน และ เสนอผลงาน เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา และระหว่างนักศึกษาด้วยกัน
2.2 การเรียนรู้แบบโครงงาน หมายถึง การจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางโดย การกระทำากิจกรรมร่วมกันด้วยวิธีการปฏิบัติจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ วิธีการ และผลของงาน เพื่อการเรียนรู้การแก้ปัญหาอัน จะนำาไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคนให้ได้รับการพัฒนาได้เต็มขีดความสามารถที่มีอยู่อย่างแท้จริงทำาให้เกิดการ เรียนรู้ และสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง
3. ข้อดีของระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนการสอนแบบอิเล็กทรอนิกส์มีข้อได้เปรียบกว่าการสอนแบบดั้งเดิม ได้แก่
3.1 ความยืดหยุ่นและความสะดวกสบาย ผู้เรียนสามารถเข้าไปเรียนในหลักสูตรได้โดยปราศจากข้อจำากัดด้านเวลาและ สถานที่
3.2 ความประหยัด ช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ฯลฯ
3.3 ผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนรู้ได้เอง การเรียนการสอนแบบอิเล็กทรอนิกส์เอื้อให้ผู้เรียนเป็นผู้ตัดสินใจและ กำาหนดเส้นทางการเรียนตามความต้องการของตนเองได้
3.4 ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย การนำาเสนอเนื้อหาของหลักสูตรในรูปแบบมัลติมีเดียที่หลากหลายไม่ว่าจะ เป็นข้อความ เสียง วีดิทัศน์ และการสื่อสาร ช่วยให้ผู้สอนและผู้เรียนสามารถเลือกรูปแบบการนำาเสนอได้ตามความยืดหยุ่นของ เวิลด์ไวด์เว็บ เพื่อให้การเรียนเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
4. ปัญหาและอุปสรรคของระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ที่พบบ่อย ได้แก่
4.1 ปัญหาด้านเทคโนโลยีที่ไม่เพียงพอและมีประสิทธิภาพต่ำา ปัญหาเว็บล่ม ฯลฯ
4.2 ระดับการเรียนรู้ของผู้เรียนและผู้สอนด้านทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ภาษา การอภิปราย การจัดเวลา การมี ปฏิสัมพันธ์
4.3 การใช้วิธีการสื่อสารแบบพิมพ์เป็นข้อความในการสื่อสารโต้ตอบระหว่างกัน (Text-based) อาจจะไม่ตอบสนองต่อ ความต้องการของผู้เรียนทุกคน ผู้เรียนบางคนอาจจะถนัดการพูดมากกว่าการเขียน
4.4 การขาดการติดต่อและขาดปฏิสัมพันธ์กับชั้นเรียน ผู้เรียนบางคนอาจชอบสภาพการเรียนแบบดั้งเดิมที่มีปฏิสัมพันธ์ กับผู้สอนและเพื่อนผู้เรียนด้วยกัน ผู้สอนก็ได้ทราบปฏิกิริยาของผู้เรียนว่าเป็นอย่างไร แต่การเรียนบนเว็บผู้สอนไม่สามารถทราบ ได้ว่าผู้เรียนกำาลังสับสนหรือเข้าใจในเนื้อหาหรือไม่ หากไม่มีการติดต่อสื่อสารกันทางเว็บ อีเมล การอภิปราย หรือวิธีการอื่นๆ
4.5 แรงจูงใจ (Motivation) ผู้เรียนที่เรียนผ่านเว็บต้องมีแรงจูงใจส่วนตัวและการจัดระบบการเรียนที่ดี การขาดการ วางแผนการเรียนจะทำาให้ผู้เรียนไม่ประสบความสำาเร็จในการเรียน และอาจสอบไม่ผ่านในหลักสูตรนั้น ๆ ได้
4.6 เนื้อหาที่กระจายไม่มีข้อยุติ (Open-ended Content) เนื้อหาในการเรียนบนเว็บที่เสนอให้ผู้เรียนนั้น บางครั้งผู้
เรียน จะไม่รู้ว่าขอบเขตเนื้อหาสิ้นสุดตรงไหน หากหัวข้อหรือหลักสูตรของการเรียนเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง
ทำให้ผู้เรียนเกิดอุปสรรคต่อ การเรียนได้
5. ปัจจัยที่ควรคำานึงถึงในการออกแบบระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ มีดังนี้
5.1 ความเป็นไปได้และการเข้าถึงข้อมูลตามวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้
5.2 การกำาหนดกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่คาดหวังและเกณฑ์การ บรรลุวัตถุประสงค์
5.3 มีการกำาหนดฝึกปฏิบัติที่เหมาะสม นำาไปสู่ผลดีในการเรียนรู้
5.4 การ
ให้ผลย้อนกลับ (Feed back) ที่เหมาะสมและทันเวลา
5.5 มีการผสมผสานองค์ความรู้แบบองค์รวม 5.6 มีการแสดงผลการปรับตัว/ ความก้าวหน้าในการเรียนรู้
5.7 มีแนวทางการประเมินสภาพการสอนที่ชัดเจน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น